Tag Archives: เฟสบุ๊ค

  มีใครสังเกตบ้างเอ่ย? ว่า กลุ่มในเฟสบุ๊ค (Group) มันมีหน้าตาเปลี่ยนไปแล้ว โดยที่จะดึง รูปโปรไฟล์ ของสมาชิกแต่ละคนขึ้นมาโชว์บนหัวของกลุ่มนั้นๆ (เหมือนรูปด้านบน) พร้อมทั้งมี แถบเมนูด้านบน ให้ใช้งานได้ง่ายๆอีกด้วยนะ ^^ สำหรับบางคนยังไม่รู้จัก กลุ่มในเฟสบุ๊ค (Group) ที่แอดมินพูดหมายถึงอะไร ?  เพื่อนๆ สามารถดูแถบทางซ้ายมือ ในหน้าหลัก (Home) ได้ดังรูป แล้วลองคลิกเข้าไปดูกันเลย :P   เป็นยังไงบ้างค่ะ สำหรับการปรับปรุง กลุ่มในเฟสบุ๊ค (Group) รูปแบบใหม่ ไฉไลกว่าเดิม ดูน่ารักไปอีกแบบใช่มั้ยค่ะ :D   ปล. สำหรับการปรับปรุงครั้งนี้ ยังไม่รองรับบนมือถือ หรือ สมาร์ทโฟนนะคะ ^^      

  หลังจากมีการปล่อย ข่าวลือ เรื่อง Facebook จะปิดตัวลงในวันที่ 15 มีนาคม ผ่านสื่อ Social Network ทั้งหลาย ทั้ง Facebook, Twitter และ Google+ รวมถึงสื่อมือถือต่างๆ เช่น BB, WhatApp หรือ Line เป็นต้น ทำให้ข่าวเรื่องนี้แพร่กระจายอย่างรวดเร็วและและกว้างขวางมาก จนผมต้องขอเขียนขึ้นเว็บชี้แจงเลยละกัน จะได้ไม่ต้องสับสนกันนะครับ ลักษณะของข้อความข่าวที่ปล่อยออกมานี้ มันคล้ายๆกับข่าวลือเดิมที่เคยปล่อยออกมาแล้วเมื่อปีก่อนๆ โดยเนื้อความข่าวเหมือนกันทั้งเรื่อง ปิดวันที่ 15 มีนาคม และเนื้อข่าวประมาณว่า ซัคเคอร์เบอร์ก ออกมาแถลงการณ์ว่า เฟสบุ๊คมันใหญ่โตจนควบคุมไม่ได้แล้ว ซึ่งผมคาดว่า น่าจะมีคนที่ไปเห็นข่าวของปีก่อนแล้วตื่นตระหนกไปเอง และเอาไปบอกต่อๆกัน โดยที่ไม่ดูปี ค.ศ. ของข่าวนั้นๆเลย และหลังจากนั้นพอมีคนเห็นมันเริ่มเป็นข่าวอีกครั้ง ก็คงนำข้อความเก่ามาเขียนใหม่ โดยเปลี่ยน ค.ศ. ให้เป็นปี 2012 รวมถึงนำ โลโก้ของสำนักข่าวชื่อดัง ใส่แอบอ้างด้วย เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ ผมจึงขอชี้แจง ณ ที่นี้เลยนะครับ ว่าข่าวนี้มันไม่จริงครับ มันเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น อีกทั้ง Facebook …

สำหรับท่านใด ที่โดนคนอื่นมากด Subscribe เยอะๆ ละก็เตรียมตัวไว้เลยนะครับ เนื่องจากคาดว่าเร็วๆนี้ทาง Facebook จะเริ่มออกกฎให้ทำการ ยืนยันตัวตน (Verify) แล้วครับ เพราะทาง Twitter และ Google+ ก็มีกฎข้อนี้เหมือนกัน โดยที่ท่านจะต้องส่งหลักฐาน (อาจจะเป็นสำเนาบัตรประชาชน) เพื่อไปยืนยันกับทาง Facebook ว่าท่านมีตัวตนจริงๆ ไม่ได้เอาชื่อผู้อื่นมาแอบอ้าง ทาง Facebook จึงจะยอมให้ใช้งานต่อไป แต่ถ้าหากยืนยันตัวตนไม่ได้ ก็คงต้องโดนระงับการใช้งานไปตามระเบียบ…         รูปภาพ และ ที่มา : Techcrunch

Paul Withee โค๊ชฟุตบอล โรงเรียนมัธยมใน รัฐเมน (Maine) ของสหรัฐอเมริกา ต้องลาออกจากตำแหน่ง หลังจากภาพนู๊ดของเขาได้หลุดไปโพสต์บนเฟสบุ๊ค Paul Withee กล่าวว่า เขาเพียงต้องการส่งภาพดังกล่าวให้กับเพื่อนของเขาคนหนึ่งเท่านั้น แต่ไม่รู้ยังไงมันดันไปโผล่ที่หน้าเพจของเขาซะงั้น ทำให้คนที่เข้ามาเห็นภาพนั้นเข้าอย่างจัง Paul Withee เป็นโค๊ชฟุตบอลของทีมโรงเรียนมัธยมและมัธยมปลายที่ Oxford Hills และเป็นอาจารย์สอนวิชาคณิตศาสตร์ด้วย หนึ่งสัปดาห์หลังจากที่ภาพดังกล่าวหลุดออกมา ทำให้เขาตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งทั้งหมดของเขาเพราะทนแรงกดดันจากสมาคมไม่ไหว เขายังบอกต่อไปว่าภาพดังกล่าวถูกโพสต์ลงไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วย (ก่อนที่เขาจะรู้ตัวและรีบลบมันออก) แต่ก็ยังมีผู้คนเข้ามาเห็นและรายงานเรื่องนี้ให้ทางโรงเรียนทราบ เขารู้สึกเสียใจและอับอายจากการกระทำในครั้งนี้ของเขา เพราะฉะนั้น เรื่องนี้ก็สอนให้เรารู้ว่า ก่อนที่เราจะโพสต์อะไรลงไปในเฟสบุ๊คหรือโชเชียลเน็ตเวิร์กอื่นๆ (Social Network) ควรคิดให้รอบคอบก่อนที่จะโพสต์เสมอ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่เราโพสต์ลงไปมันจะแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ราวกับโยนก้อนหินลงน้ำเลยหละครับ   แปลจาก: mashable.com(มือใหม่นะครับ หากแปลผิดพลาดประการใดสามารถแนะนำได้ครับ)

หลังจากมีผู้ใช้งานหลายต่อหลายคน ที่ไม่ค่อยจะพอใจกับการใช้ Facebook ในรูปแบบ Timeline สักเท่าไหร่ แต่ในที่สุดก็มีผู้ที่สร้าง Extensions หรือ Add-ons ที่ชื่อว่า “Timeline Remove” ขึ้นมาให้พวกเราใช้จนได้นะครับ โดยขั้นตอนนั้นง่ายมาก เพียงแค่คุณต้องใช้งาน Browser ของ Firefox หรือ Google Chrome (เนื่องจากตอนนี้เป็นเวอร์ชัน 1.0 ยังสามารถใช้ได้กับ Browser แค่ 2 ตัวนี้เท่านั้นครับ) และไปโหลด Extensions หรือ Add-ons ที่ว่านี้มาติดตั้ง แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้ว หากใครที่ต้องการจะลบ Timeline ออก ก็ลองแวะไปโหลด Extensions หรือ Add-ons มาใช้งานได้ครับ ที่เว็บไซต์ timelineremove.com ครับ :) แต่ต้องจำไว้ว่า ถึงคุณจะเห็นเป็นเฟสบุ๊คแบบเก่าแล้ว แต่คนอื่นๆก็ยังเห็นคุณเป็นไทม์ไลน์อยู่ดีครับ   อ่านวิธี ปิด Timeline บน Facebook แบบต่างๆ ได้ที่นี่ครับ คลิกเลย   …

  สำหรับบทความนี้ ส่วนใหญ่จะเป็น วัยรุ่นต่างชาติ เขาใช้กันนะครับ เอามาให้ดูกัน เผื่อวัยรุ่นไทยสนใจจะทำบ้าง (น่านนน.. มีชี้โพรงให้กระรอก ฮ่าๆ) จากรูปนี้คือ ตารางสรุป 33 โค้ดลับของวัยรุ่น ที่จะใช้คุยกับเพื่อนๆ (ส่วนใหญ่ใช้ตอนที่ผู้ปกครองอยู่ใกล้ๆ) ซึ่งทำการรวบรวมละวิเคราะห์โดย SocialShield ครับ โดยทาง SocialShield เห็นว่าโค้ดลับเหล่านี้ผู้ปกครองควรที่จะรู้เอาไว้บ้าง เพราะบางประโยคอาจจะทำให้มีภัยกับลูกหลานของท่านได้ เมื่อท่านรู้ถึงการคุยในประโยคเหล่านี้แล้วจะได้หาทางแก้ไขได้ทันครับ (เช่นโค้ด GNOC เป็นต้น) แต่ก็อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว ส่วนใหญ่ใช้กันที่เมืองนอกครับ สำหรับเด็กไทยจะใช้โค้ดลับอะไรกัน ก็ยังไม่ได้มีคนทำการวิจัยมาอย่างจริงจังเลยครับ… แต่ถ้ามีก็น่าจะดีนะ อิอิ :)         ที่มา : allfacebook.com

  จากผลการวิจัยของ Psychological Studies จากคนทั้งหมด 250 คน พร้อมทั้งข้อมูลจาก Log ราวๆ 8,000 ชุด สรุปได้ว่า ความต้องการในแต่ละวันของคนยุคสมัยนี้ มีความต้องการที่จะใช้สื่อ Social Network มากกว่าความต้องการที่จะ สูบบุหรี่หรือดื่มสุรา ด้วยซ้ำ โดยมีคนกล่าวว่าการที่จะเลิกใช้ Social Network นี่อาจจะยากพอๆกับการเลิกสุราหรือเลิกบุหรี่เลยทีเดียว. แล้วคุณละ? เป็นอีกหนึ่งคนที่ กำลังเสพย์ติด Social Network (อย่างเช่น Facebook) หรือเปล่า? ^^         ที่มา : allfacebook Photo : blogspot.com

  ล่าสุดทาง Facebook ได้มีการเปลี่ยนแปลงอีกแล้วครับ หลังจากที่ได้เปลี่ยนรูปแบบ การแสดงรูปภาพ แบบใหม่! โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นที่ฮือฮามาก เนื่องจากรูปแบบการ แสดงรูปภาพ หน้าตาออกมาคล้ายกับของ Google+ เรียกได้ว่า โคลนนิ่ง กันมาเลยทีเดียวครับ จะลอกกันมาหรือเปล่าก็ไม่ทราบนะครับ แต่ก็ลองๆเล่นกันดูก่อนครับ อาจจะติดใจรูปแบบนี้ก็ได้นะ แต่ถ้าชอบรูปแบบนี้ ก็อย่าเพิ่งย้ายหนีไปเล่น Google+ กันหมดนะครับ อิอิ :)            

เคยสงสัยกันบ้างมั้ยครับว่า เวลาเราค้นหาข้อมูลใน Google แล้วทำไมมักจะมีเพียงแค่ข้อมูลจากผู้ใช้งาน Google+ โผล่มาเท่านั้น นั่นก็เพราะว่า โครงการของ Google ที่มีชื่อว่า “Search, plus Your World” ที่จะดึงข้อมูลจาก Google+ มาใส่ในผลการค้นหาจาก Google ด้วย แต่ไม่มีข้อมูลจาก Social Network อื่นๆซะงั้น     ด้วยเหตุนี้ทาง Blake Ross จาก Facebook นำทีมวิศวกรของ Facebook, Twitter และ  MySpace ทำโครงการที่มีชื่อว่า Focus on the User โดยทีมนี้ช่วยกันเขียน Script ที่มีชื่อว่า “Don’t be evil” เพื่อให้สามารถเห็นข้อมูลจาก Social Network ตัวอื่นๆได้ เมื่อเราค้นหาจาก Google ดังรูปด้านล่างนี้   สำหรับท่านใดที่ต้องการติดตั้ง Script ของ “Don’t be evil” …

  ล่าสุด Barracuda Labs ได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลจาก Facebook ทั้งหมด 2,884 โปรไฟล์ จึงสามารถเห็นข้อแตกต่างระหว่าง ไอดีของเฟสบุ๊คที่มีผู้ใช้งานจริง กับ ไอดีของเฟสบุ๊คที่ทำขึ้นมาหลอกๆ ดังนี้   – 97% ของ ไอดีเฟสบุ๊คของปลอม มักจะสร้างเป็นโปรไฟล์ ผู้หญิง และ ตั้งค่าความสนใจ ทั้ง ผู้หญิงและผู้ชาย     – จำนวนของเพื่อน ในเฟสบุ๊คโดยเฉลี่ย ไอดีเฟสบุ๊คของจริง มีเพียง 130 คนเท่านั้น เมื่อเทียบกับ ไอดีเฟสบุ๊คของปลอม แล้วมีถึง 726 คนเลยทีเดียว     – ที่เห็นได้เด่นชัดคือ พฤติกรรมการ Tag รูป หากเป็น ไอดีเฟสบุ๊คของจริง จะ Tag ประมาณ 1 ครั้งต่อรูป 4 รูป แต่ถ้าเป็น ไอดีเฟสบุ๊คของปลอม จะ Tag ประมาณ 136 ครั้งต่อรูป 4 รูป ซึ่งมีความแตกต่างกันมากๆเลยครับ …