News

ตอนนี้ทาง Facebook ได้เพิ่มฟีเจอร์ตัวใหม่มานั่นคือ “รายงานพยากรณ์สภาพอากาศ”  สำหรับผู้ที่จะจัด Event ครับ ทำให้เราสามารถเดาได้ว่าวันที่เราจะจัด Event นั้นจะมีสภาพอากาศเป็นเช่นไรครับ จะได้ทราบและเตรียมตัวรับมือได้ทันครับ ทีนี้เราก็จะได้ไม่ต้องมารอลุ้นแล้วละครับว่าวันที่เราจัดงานนั้น ฝนจะตกหรือแดดจะออก อิอิ   ถ้าหากต้องการดูข้อมูลการพยากรณ์อากาศแบบละเอียดๆเลยก็สามารถทำได้ครับ เพราะมันจะสามารถเข้าไปดูรายละเอียดของสภาพอากาศวันที่เราจะจัด Event ได้ด้วยครับ ก็ลองใช้งานกันดูนะครับ คาดว่าน่าจะมีประโยชน์มากๆเลยทีเดียว :)         Credit : Allfacebook  

  ตอนนี้ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้ง และ CEO คนปัจจุบันของ Facebook เจ้าพ่อแห่งวงการ Social Network ได้ครองแชมป์ “CEO ที่ดีที่สุด” จากการจัดอันดับโดยเว็บไซต์ Glassdoor ที่รวบรวมความคิดเห็นต่างๆจากทั้งพนักงานปัจจุบันและอดีตพนักงานขององค์กรต่างๆ ที่มีต่อผู้บริหารหน่วยงานของตนเอง ได้ผลสรุปว่า 99% ของพนักงานปัจจุบันและอดีตพนักงานของ Facebook ให้คะแนน มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เกือบเต็มในทุกๆด้าน โดยเฉพาะนโยบายเรื่องการเปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนร่วมความคิดเห็นกันได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นนโยบายที่พนักงานชื่นชอบมากที่สุด รวมถึงมีการจัดสภาพสิ่งแวดล้อมในการทำงานที่ดีเยี่ยม ทำให้พนักงานมีสภาพจิตใจที่มีความสุขและพร้อมจะทำงานตลอดเวลา    

หลังจากปีก่อนที่ facebook มีการเปลี่ยนแปลงหน้าโพสท์ส่วนตัวให้กลายเป็นแบบ Time Line คนใช้ก็ร้องเจี๊ยกจ๊ากกันเป็นแถบ คราวนี้ก็ถึงเวลาของ News Feed (หรือหน้า Home) บ้างครับ ที่ถูกออกแบบมาใหม่ และกำลังจะถูกใช้เร็วๆนี้ แนวคิดของ news feed แบบใหม่นี้คือ ทาง facebook เขาตั้งใจจะให้หน้า News Feed เป็นเหมือน”หนังสือพิมพ์ส่วนตัว” ที่เราจะสามารถเปิดไปอ่านข่าวที่เราสนใจ หรือคอลัมน์ที่เราติดตาม ได้โดยง่าย (คงไม่มีใครซื้อหนังสือพิมพ์มา แล้วเปิดอ่านตั้งแต่หน้าแรกจนหน้าสุดท้ายใช่ไหมครับ ^^) News Feed แบบใหม่นี้ จะมีการจัดกลุ่มของเนื้อหาไว้เป็นชุดๆ เพื่อที่จะให้ผู้ใช้สามารถ”เลือกดู” ได้ตรงเรื่องที่สนใจมากขึ้น เช่น ถ้าเราสนใจว่าเพื่อนมีการแชร์รูปอะไรบ้าง เราก็สามารถตรงเข้าไปที่ Photos Feed ได้เลย หรือจะเลือกดูตามเวลาล่าสุดเหมือนเดิมก็ได้ หมวดหมู่ที่มีจัดไว้ก็อย่างเช่น All Friends Feed, Music Feed, Photos Feed และ Followers Feed อื่นๆที่มีการเปลี่ยนไปด้วยก็อย่างเช่น รูปและวิดีโอที่แชร์ก็จะมีการแสดงผลที่ใหญ่ขึ้น คำอธิบายก็จะไปซ้อนทับอยู่ในรูปด้วยเลย ก็ดูดีไปอีกแบบนะ   สำหรับใครที่อยากจะลองใช้ …

หลังจากที่ Twitter ได้นำการใช้ Hashtags มาใช้งานจนเป็นที่นิยม ทาง Facebook จึงมีแนวโน้มว่าอาจจะเอาเจ้า Hashtags เนี่ยมาใช้งานบ้างครับ พูดมาถึงตรงนี้อาจจะมีหลายๆคนสงสัยว่า Hashtags  คืออะไร ?  ผมขออธิบายสั้นๆดังนั้นครับ Hashtags คือ การที่พิมพ์สัญลักษณ์เป็นเครื่องหมาย # ก่อนแล้วจะพิมพ์คำที่เราต้องการ ส่วนใหญ่จะเป็นพวก Keyword สำคัญๆ เพื่อเอาไว้จับกลุ่มพวกที่จะคุยเรื่องเดียวกันได้ง่ายๆ (ถ้าหากใครเคยเขียน Blog ก็จะคล้ายๆกับ Tags ของ Blog นั่นแหละครับ) แต่ข่าวที่ทาง Facebook จะเอา Hashtags มาใช้นั้นยังไม่ได้รับการยืนยันนะครับ มารอดูกันต่อไป ถ้าหากมีข่าวที่ยืนยันจากทาง Facebook แน่นอนแล้วเราจะนำมาแจ้งให้ทราบอีกทีนะคร้าบบบบบ :)      

ตอนนี้ทาง Facebook ได้ประกาศออกมาแล้วว่าจะมีงาน Facebook Mobile DevCon 2013 ณ เมือง 3 แห่งดังต่อไปนี้คือ New York (18 เม.ย.), London (2 พ.ค.), Seoul (7 พ.ค.) สำหรับใครที่ยังไม่ทราบว่างาน Facebook Mobile DevCon 2013 นี่คืออะไร ผมจะขอสรุปให้ฟังสั้นๆว่า เป็นงานที่จะรวมตัว โปรแกรมเมอร์ทางด้านการพัฒนาแอพฯบนมือถือ มาอยู่ด้วยกันครับ เพราะตอนนี้ Facebook จะหันมาผลักดันเรื่อง Mobile กันแบบเต็มตัวแล้ว ในงานก็จะพูดถึงเรื่องทางด้านเทคนิคแบบเจาะลึกซะส่วนใหญ่ เช่น การพัฒนาแอพฯบน iOS, Android และการใช้ JS software-development kits , การ implement Facebook login ให้ดีที่สุดจะทำอย่างไร?, การใช้ open graph ทำอย่างไร?, การทำการบนมือถือ และอื่นๆอีกมากมายเลย เหล่าโปรแกรมเมอร์เห็นแบบนี้แล้วคงตั้งหน้าตั้งตารอกันเลยทีเดียวใช่ไหมละ อิอิ   …

  มีหลายๆคนสงสัยว่า ถ้าเรา โพสต์สเตตัส ใน Facebook แล้วจะมี เพื่อนเราเห็นเยอะหรือเปล่านะ? เห็นทั้งหมดหรือเปล่า? ล่าสุดได้มีการนำข้อมูลจริงจากระบบมาวิเคราะห์ แล้วพบว่า ในการโพสต์สเตตัส 1 ครั้งจะมีเพื่อนๆใน Facebook ของเราเห็นประมาณ 20 – 40 % (โดยประมาณ) ของเพื่อนที่มีอยู่เท่านั้นเอง และถ้าเพื่อนเรายิ่งมีมาก จำนวนเปอร์เซ็นจะยิ่งน้อยลงไปอีก แต่ถ้าหากมีเพื่อนเรามากด Share สเตตัสของเรา จำนวนเปอร์เซ็นจะเพิ่มขึ้นมาครับ รวมถึงการเข้ามากด Like ของเพื่อนๆอยู่เรื่อยๆ ก็จะช่วยให้สเตตัสของเราโผล่ขึ้นมาตลอดเวลา และทำให้มีจำนวนเพื่อนเห็นเพิ่มขึ้นมาอีกครับ           Photo :  Eytan Bakshy

จากนโยบายใหม่ของ Facebook ที่จะให้ผู้ใช้งานเล่น Facebook ได้ ฟรี ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ โดยที่ไม่ต้องเสียค่าอินเตอร์เน็ตนั้น มีข่าวดีสำหรับคนไทยคือ จากรายชื่อทั้งหมด 14 ประเทศที่ Facebook ประกาศออกมานั้น ได้มีชื่อประเทศไทยอยู่ด้วย โดยมีเครือข่าย DTAC เป็นเครือข่ายแรกที่จะเปิดให้เล่นฟรีครับ :) ดูรายชื่อประเทศทั้งหมด ที่มีการเปิดให้เล่น Facebook ฟรี ได้จากรายชื่อด้านล่างนี้ครับ –    TMN in Portugal –    Three in Ireland –    Airtel and Reliance in India –    Vivacom in Bulgaria –    Backcell in Azerbaydzhan –    Indosat, Smartfren, AXIS and XL Axiata in Indonesia –    SMART in Philippines –    …

  ตอนนี้ทาง Facebook ได้มาเน้นเรื่องการ ขายของออนไลน์ (Online Shopping) กันแล้วครับ โดยปรับปรุงให้ร้านค้าสามารถขายของใน Facebook ของตัวเองได้ครับ เพียงแค่กดที่ปุ่ม Shop Now ลูกค้าของเราก็จะสามารถช๊อปสินค้าเหล่านั้นไปได้แบบสบายๆเลย และที่เจ๋งกว่านั้นคือ ได้เพิ่มปุ่ม Remind Me มาให้ด้วย เผื่อว่าลูกค้าสนใจสินค้าตัวนั้น แต่ต้องการจะเก็บไว้ก่อน เพื่อตัดสินใจในภายหลังก็ได้ครับ มาลองดูกันว่าถ้าหาก Facebook เน้นจริงจังมาทางด้าน Online Shopping แล้วจะสร้างกำไรให้กับทาง Facebook ได้มหาศาลเพียงใด :)         Photo : insidefacebook

ข่าวล่าสุดจากเฟสบุ๊ค ตอนนี้ได้เพิ่มฟีเจอร์ให้ผู้ใช้สามารถจ่ายเงินเพื่อแชร์และโปรโมทโพสต์ของเพื่อนๆ ได้แล้วนะครับ คนอื่นๆที่ผู้เริ่มต้นโพสต์ไม่ต้องการให้มองเห็นก็ไม่สามารถมองเห็นโพสต์นี้ได้ครับ การแสดงผลคือจะทำให้โพสต์นั้นๆ ดูเด่นออกมาจากโพสต์อื่นๆ ครับ ฟีเจอร์นี้จะแสดงอยู่ใน drop down เมนูของแต่ละโพสต์ครับ สามารถเลือกได้ว่าจะ share ที่เพจหรือว่า time line ของตัวเองก็ได้ตามปกตินะครับ สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่สนใจก็เข้าไปทดลองใช้กันได้นะครับ แต่ที่สำคัญต้องจ่ายตังก์นี่สิ … อิอิ   :D ที่มา: insidefacebook.com

หลังจากโดนฟ้องเรื่อง ปุ่ม Want ไปไม่นานนัก ตอนนี้ก็มาโดนฟ้องอีกแล้ว ทีนี้เป็นเรื่องใหญ่เลยเพราะว่า โดนฟ้องละเมิดสิทธิบัตรปุ่ม Like ซึ่งเป็นฟีเจอร์หลักของ Facebook เลยก็ว่าได้ ผู้ที่ฟ้องก็คือ บริษัท Rembrandt Social Media โดยอ้างว่า ปุ่ม Like นี้ทาง นาย Joannes Jozef Everadus van Der Meer ซึ่งเป็นโปรแกรมเมอร์ชาวฮอลแลนด์ของบริษัทเขาได้คิดค้นมาก่อนแล้ว อีกทั้งยังจดสิทธิบัตรไว้อีกด้วย โดยทาง Rembrandt Social Media กล่าวว่าเมื่อก่อนพวกเขาได้ทำ Social Network ชื่อว่า Surfbook เป็นไดอารี่ออนไลน์ ให้คนเข้ามาแชร์ข้อมูล และมีปุ่มไลค์เอาไว้ให้คนเข้ามากดยืนยันความถูกต้องของข้อมูล หลังจากนั้นได้จดสิทธิบัตรทั้งหมดนี้ไว้ในปี 1998 (หลังจากนั้นอีก 5 ปี ซัคเกอร์เบิร์กก็ทำ Facebook ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้) ตอนนี้ทางด้าน Facebook ก็ยังไม่ได้ออกมาตอบโต้อะไร ก็ต้องรอติดตามข่าวกันต่อไปนะครับ ว่าผลสุดท้ายแล้วจะลงเอยอย่างไร?