Tag Archives: ซัคเคอร์เบอร์ก

หลังจากโดนฟ้องเรื่อง ปุ่ม Want ไปไม่นานนัก ตอนนี้ก็มาโดนฟ้องอีกแล้ว ทีนี้เป็นเรื่องใหญ่เลยเพราะว่า โดนฟ้องละเมิดสิทธิบัตรปุ่ม Like ซึ่งเป็นฟีเจอร์หลักของ Facebook เลยก็ว่าได้ ผู้ที่ฟ้องก็คือ บริษัท Rembrandt Social Media โดยอ้างว่า ปุ่ม Like นี้ทาง นาย Joannes Jozef Everadus van Der Meer ซึ่งเป็นโปรแกรมเมอร์ชาวฮอลแลนด์ของบริษัทเขาได้คิดค้นมาก่อนแล้ว อีกทั้งยังจดสิทธิบัตรไว้อีกด้วย โดยทาง Rembrandt Social Media กล่าวว่าเมื่อก่อนพวกเขาได้ทำ Social Network ชื่อว่า Surfbook เป็นไดอารี่ออนไลน์ ให้คนเข้ามาแชร์ข้อมูล และมีปุ่มไลค์เอาไว้ให้คนเข้ามากดยืนยันความถูกต้องของข้อมูล หลังจากนั้นได้จดสิทธิบัตรทั้งหมดนี้ไว้ในปี 1998 (หลังจากนั้นอีก 5 ปี ซัคเกอร์เบิร์กก็ทำ Facebook ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้) ตอนนี้ทางด้าน Facebook ก็ยังไม่ได้ออกมาตอบโต้อะไร ก็ต้องรอติดตามข่าวกันต่อไปนะครับ ว่าผลสุดท้ายแล้วจะลงเอยอย่างไร?

ตอนนี้ทาง Facebook ได้เริ่มทดสอบระบบเก็บเงิน ในการ ส่งข้อความ หา คนดัง หรือ คนที่ไม่ใช่เพื่อนของตนเอง แล้วครับ โดยทาง Facebook ให้เหตุผลว่าวิธีนี้จะเป็นการลดจำนวน Spam ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ผู้ที่เป็นเพื่อนกัน ก็ยังส่งข้อความหากันฟรีอยู่นะครับ ในเบื้องต้นราคาที่ทราบ เช่นการส่งข้อความหา มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก CEO ของ Facebook จะต้องจ่ายเงินถึง 100 ดอลล่าร์เลยทีเดียว แต่ถ้าหากส่งข้อความหาคนทั่วๆไป ที่ไม่ใช่เพื่อนของเรา จะต้องเสียเงินข้อความละ 1 ดอลล่าร์ครับ หรือประมาณ 30 กว่าบาท ก็ต้องมาติดตามกันต่อไปว่าการที่ Facebook มาเก็บเงินเช่นนี้จะมีผลตอบรับอย่างไรบ้าง      

ล่าสุดทาง Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Facebook ก็ได้เริ่มเผยแพร่โฆษณาตัวแรกของ Facebook แล้วนะครับ โดยชื่อของโฆษณาตัวนี้ก็คือ “The Things That Connect Us” นั่นเอง มีความยาวประมาณ 90 วินาที สร้างโดยบริษัท Wieden + Kennedy ครับ และเนื้อเรื่องก็จะกล่าวประมาณว่า Facebook จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางสำหรับใช้เชื่อมโยงผู้คนเข้าหากัน สำหรับผู้ที่ต้องการชมโฆษณา ก็ลองคลิกดูด้านล่างนี้เลยครับ :)    

เร็วๆนี้เหมือนว่าทาง Mark Zuckerberg ผู้ที่ก่อตั้งและเป็น CEO ของ Facebook จะได้ออกมากล่าวประมาณว่า เขาเริ่มสนใจที่จะทำ Search Engine เข้าซะแล้วสิ เนื่องจากปัจจุบันนี้ ได้มีผู้ใช้งานเข้ามาใช้ Facebook ในการค้นหากว่า 1 พันล้านครั้งต่อวัน จึงทำให้ Zuckerberg นั่นเริ่มสนใจที่จะเข้าร่วมศึกของตลาด Search Engine กับเขาบ้าง งานนี้ทาง Google เจ้าพ่อแห่ง Search Engine อาจจะต้องร้อนๆหนาวๆกันเลยทีเดียวนะครับ เพราะว่าช่วงนี้ความสัมพันธ์ระหว่าง Facebook และยักษ์ใหญ่ของ Search Engine อีกรายอย่าง Bing ก็ดีมากซะด้วยสิ คงต้องมาจับตาดูกันต่อไปครับ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับโลกออนไลน์ ถ้าหาก Facebook สร้างระบบ Search Engine ขึ้นมาเอง      

เป็นที่ฮือฮากันอย่างมาก เมื่อ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) CEO ของ Facebook ในวัยเพียง 28 ปี ได้พาแฟนสาวชาวจีน พริสซิลา ชาน (Priscilla Chan) วัย 27 ปี เข้าพิธีมงคลสมรสกันที่เมือง Palo Alto หลังจากที่ทั้งคู่ได้คบหาดูใจกันมานานถึง 9 ปี สำหรับงานแต่งครั้งนี้ได้จัดขึ้นที่สวนหลังบ้าน ด้วยบรรยากาศที่ค่อนข้างจะเรียบง่าย แขกในงานมีเพียงญาติผู้ใหญ่และเพื่อนสนิทไม่เกิน 100 คนเท่านั้น และงานแต่งครั้งนี้ได้จัดขึ้นหลังจากที่ ซัคเคอร์เบิร์ก เปิดการซื้อขายหุ้น IPO ของ Facebook ในตลาดหุ้นของ NASDAQ เพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้นเอง ก็ขอแสดงความยินดีกับ ซัคเคอร์เบิร์ก ด้วยนะครับ ที่มีเเรื่องน่ายินดีเกิดขึ้นพร้อมกันถึง 2 เรื่องเลยทีเดียว :)

  ในที่สุดก็ได้ฤกษ์ในการขายหุ้น IPO ของ Facebook กันสักทีนะครับ โดยทาง CEO ของ Facebook นั่นคือ Mark Zuckerberg ได้ทำการ เคาะระฆังเปิดหุ้นใหม่ กับ NASDAQ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว (หุ้นใหม่ที่จะเข้าตลาด NASDAQ จะต้องมาทำพิธีเคาะระฆังกันก่อนครับ) แต่ที่แปลกกว่าชาวบ้านเขาก็คือ ทาง Zuckerberg ไม่ได้เดินทางไปเคาะระฆังที่ NASDAQ เหมือนที่คนอื่นทำกันนะครับ เนื่องจากเขาทำการเคาะระฆังที่หน้าสำนักงานใหญ่ของ Facebook เลย และให้ทางทีมงานขั้นเทพทั้งหลายของ Facebook ช่วยกันตั้งค่าการควบคุมระยะไกล (Remote) ไปที่ NASDAQ โดยตรง เพื่อทำการเคาะระฆังในครั้งนี้ครับ   ส่วนกระแสของหุ้น Facebook ก็ค่อนข้างจะมาแรงมากครับ นักเล่นหุ้นทั้งหลายต่างก็รุมเข้าซื้อจนเกิดปัญหาเล็กน้อย ในช่วงที่เปิดตลาดครับ สำหรับเพื่อนคนไหนที่เล่นหุ้นอยู่ก็ลองซื้อมาตุนเอาไว้ก็ได้นะครับ (ราคาเปิดจะอยู่ที่ หุ้นละ 42 ดอลลาร์ หรือราวๆ 1,300 กว่าบาท) คลิกดูราคาหุ้น Facebook ได้ที่นี่   Credit.. Techcrunch

วันที่ 14 พฤษภาคม ของทุกปีถือว่าเป็นวันสำคัญของทาง Facebook เลยก็ว่าได้ เพราะมันคือ วันเกิดของผู้ก่อตั้ง Facebook และยังเป็น CEO อีกด้วย นั่นคือ Mark Zuckerberg นั่นเอง สำหรับในปีนี้ (2012) ก็ครบรอบอายุ 28 ปีของเขาแล้วครับ ด้วยวัยเพียง 28 ปีของ Mark Zuckerberg ตอนนี้เขาได้ทำในสิ่งที่เหนือคำบรรยายไว้หลายอย่างเลยทีเดียว ด้วยการเป็นผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Social Network ที่ดังที่สุดในโลก และยังเป็นมหาเศรษฐีที่เด็กที่สุดอีกด้วย เมื่อเทียบกับผู้ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจต่างๆ สุดยอดเลยใช่ไหมละครับสำหรับผู้ชายคนนี้ที่ชื่อ Mark Zuckerberg!! Happy Birthday to You!! :)       Photo: NextChanel.com

แม้ว่าตอนนี้ทาง Facebook จะยังไม่ได้เปิด โฆษณาทางมือถือ (Mobile Ads) แต่จากสถิติและการวิเคราะห์ต่างๆ ทำให้สามารถประเมินได้ว่า เมื่อ Facebook เริ่มทำโฆษณาบนมือถือเมื่อไหร่ พวกเขาจะมีเงินรายได้ถึงปีละ 1.2 พันล้านดอลล่าร์ เลยทีเดียว จากผลการสำรวจผู้ใช้งาน Facebook บนมือถือขณะนี้มีถึง 185.3 ล้านคน และยังมีการเปิดใช้งานตลอดทั้งวันอีกด้วย จึงไม่ใช่เรื่องยากเลยที่ Facebook จะสามารถทำรายได้มหาศาลจาก โฆษณาบนมือถือ นี่ขนาดยังไม่เปิดใช้โฆษณาบนมือถือยังรวยขนาดนี้ ถ้าหากเปิดใช้แล้ว คุณซัคเคอร์เบอร์ก ของเราไม่รู้จะเอาเงินไปเก็บไว้ไหนแล้วนะครับ อิอิ :)      

  หลังจากมีการปล่อย ข่าวลือ เรื่อง Facebook จะปิดตัวลงในวันที่ 15 มีนาคม ผ่านสื่อ Social Network ทั้งหลาย ทั้ง Facebook, Twitter และ Google+ รวมถึงสื่อมือถือต่างๆ เช่น BB, WhatApp หรือ Line เป็นต้น ทำให้ข่าวเรื่องนี้แพร่กระจายอย่างรวดเร็วและและกว้างขวางมาก จนผมต้องขอเขียนขึ้นเว็บชี้แจงเลยละกัน จะได้ไม่ต้องสับสนกันนะครับ ลักษณะของข้อความข่าวที่ปล่อยออกมานี้ มันคล้ายๆกับข่าวลือเดิมที่เคยปล่อยออกมาแล้วเมื่อปีก่อนๆ โดยเนื้อความข่าวเหมือนกันทั้งเรื่อง ปิดวันที่ 15 มีนาคม และเนื้อข่าวประมาณว่า ซัคเคอร์เบอร์ก ออกมาแถลงการณ์ว่า เฟสบุ๊คมันใหญ่โตจนควบคุมไม่ได้แล้ว ซึ่งผมคาดว่า น่าจะมีคนที่ไปเห็นข่าวของปีก่อนแล้วตื่นตระหนกไปเอง และเอาไปบอกต่อๆกัน โดยที่ไม่ดูปี ค.ศ. ของข่าวนั้นๆเลย และหลังจากนั้นพอมีคนเห็นมันเริ่มเป็นข่าวอีกครั้ง ก็คงนำข้อความเก่ามาเขียนใหม่ โดยเปลี่ยน ค.ศ. ให้เป็นปี 2012 รวมถึงนำ โลโก้ของสำนักข่าวชื่อดัง ใส่แอบอ้างด้วย เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ ผมจึงขอชี้แจง ณ ที่นี้เลยนะครับ ว่าข่าวนี้มันไม่จริงครับ มันเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น อีกทั้ง Facebook …

หลังจากที่จับตามองกันอยู่นานแสนนาน ล่าสุดทาง Facebook ได้มีท่าทีแล้วว่าจะจดทะเบียนหุ้น IPO เร็วๆนี้อย่างแน่นอน (คาดว่าไม่เกินช่วงต้น กุมภาพันธ์ 2555) ทาง The Wall Street Journal ได้รายงานว่า ผู้ที่จะช่วยนำหุ้นเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในครั้งนี้ มีตัวเกร็งอยู่ 2 คนครับ นั่นคือ Morgan Stanley และ Goldman Sachs (ซึ่ง Morgan Stanley น่าจะมีโอกาสมากกว่า) สำหรับ มูลค่าหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์ของ Facebook น่าจะอยู่ที่ประมาณ 75-100 พันล้านดอลล่าร์ (ถือว่าเป็นมูลค่าที่สูงติดอันดับต้นๆเลยทีเดียว) แต่ก็ยังเลือกอยู่ว่าจะนำเข้าตลาดไหนระหว่าง The New York Stock Exchange และ Nasdaq ที่กำลังแย่งชิงหุ้นของ Facebook กันอย่างหนัก ส่วนชื่อที่จะใช้ในตลาดหลักทรัพย์ คาดว่าน่าจะใช้ชื่อ FBOOK ครับ แต่ถึงยังไงก็คงต้องติดตามผลกันต่อไป ว่าสุดท้ายแล้วมันจะลงเอยเช่นไร… :P